5 ข้อที่ควรรู้
ก่อนลงทุนสร้างห้องเย็น สำหรับจัดเก็บสินค้า
ห้องเย็น มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับเก็บวัตถุดิบ หรือสินค้าหลายประเภท
ที่ต้องการความเย็นจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ความเย็นจะทำให้กระบวนการทางเคมี
และชีวภาพในสินค้าเสื่อมสภาพและสูญเสียคุณภาพช้าลง เช่น อาหาร ความเย็นสามารถ
ยืดอายุอาหารที่เน่าเสียง่ายให้คงความสดได้ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล ผลไม้
และผัก ทั้งหมดนี้สามารถยืดอายุออกไปได้นานขึ้นด้วยการทำให้เย็นหรือการแช่แข็ง
ซึ่งช่วยลดการสูญเสีย สินค้ามีความสดใหม่และยังคงรักษาคุณภาพ รสชาติ ของวัตถุดิบ
หรือสินค้าให้คงอยู่ ทำให้คลังสินค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องคำนึงถึงห้องเย็น
เพื่อมาจัดเก็บวัตถุดิบหรือสินค้าเพื่อเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขอนามัย
ข้อมูลเพิ่มเติม ความรู้เกี่ยวกับระบบทำความเย็น
1. ควรเลือกห้องเย็นแบบไหนดี
เราสามารถแบ่งประเภทของห้องเย็น ได้ 2 ประเภท ได้แก่
• ห้องเย็นสำเร็จรูป แบบเคลื่อน เป็นห้องเย็นขนาดเล็กถึงกลาง
อาจมีขนาดไม่ใหญ่มาก ราคาไม่สูงมาก ห้องเย็นประเภทนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้
ส่วนใหญ่มักจะเก็บสินค้าได้ไม่เกิน 6 ตัน และไม่เหมาะกับการติดตั้งในอาคาร
เนื่องจากการขนย้ายห้องเย็นสำเร็จรูปจำเป็นต้องใช้เครนในการเคลื่อนย้าย
• ห้องเย็นแบบสั่งทำ ยึดติดกับโครงสร้างอาคาร
ห้องเย็นประเภทนี้จะมีขนาดห้องจะใหญ่กว่าห้องเย็นสำเร็จรูป เก็บสินค้าได้มากกว่าห้องเย็นสำเร็จรูป เก็บได้สินค้าได้มากกว่า 10 ตันขึ้นไป ถูกออกแบบได้ตามความต้องการ
ห้องเย็นประเภทนี้ลูกค้าสามารถออกแบบลักษณะได้เอง ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
การออกแบบห้องเย็นที่ดี ควรเลือกใช้บริการผู้รับเหมาที่มีวิศวกรชำนาญการ
เพื่อพิจารณาสถานที่ ให้เหมาะสมกับขนาดและ ประเภทของห้องเย็น
ประเภทสินค้าที่จัดเก็บ อุณหภูมิที่จัดเก็บ และบริการหลังการขาย รวมถึงการประหยัดพลังงาน
เพราะการลงทุนสร้างหรือติดตั้งห้องเย็น ควรวิเคราะห์ต้นทุน จุดคุ้มทุน
โดยต้องคำนึงถึงการเลือกอุปกรณ์ ขนาดเครื่องทำความเย็น ขนาดของห้องเย็น
ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ
ข้อมูลเพิ่มเติม ประเภทของห้องเย็น
2. การเตรียมระบบไฟฟ้าสำหรับห้องเย็น
เพื่อให้การทำงานของห้องเย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรใช้ไฟฟ้า 380 โวลล์
หรือไฟฟ้า 3 เฟส เพื่อป้องกันปัญหาไฟกระชาก ไฟตกขณะระบบทำความเย็นกำลังทำงาน
เพราะถ้าไฟไม่พอหรือไฟตกจะมีผลกระทบกับเครื่องทำความเย็นห้องเย็น
อาจจะมีอายุการใช้งานสั้นลง
เหตุผลที่ควรใช้ไฟ 3 เฟส
• ไฟตก ไฟกระชาก โอกาสเกิดไฟตก ไฟกระชาก กับไฟ 3 เฟส
จะน้อยกว่า single phase เนื่องจากว่า single phase เป็นไฟฟ้า 220 v
ที่ใช้ร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บ้านส่วนใหญ่จะแชร์ไฟฟ้า ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน
เช่นหากแถวนั้นมีงานที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากๆ สังเกตว่าจะมี ไฟตกเป็นช่วงๆ
หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้งก็จะส่งผลเสียกับเครื่องทำความเย็น
ถึงแม้เราจะมีระบบป้องกัน (Phase Protect) อยู่แล้วก็ตาม
• ภาระโหลดกระแสไฟฟ้า ไฟฟ้า 3 เฟส มี 4 เส้น ไฟ 3 เส้น และนิวตรอนอีก 1 เส้น
หากเราใช้มิเตอร์ 15/45 Amp ยกตัวอย่าง ห้องเย็นเราใช้ 12 Amp จะ แบ่งภาระกระแสไฟฟ้า
เส้นละ 4 แอมป์ เมื่อเทียบกับ single phase ที่ใช้กระแสไฟ 12 แอมป์ในเส้นเดียว
ก็จะเกิดความร้อนของขดลวดที่สายไฟทำให้เกิดพลังงานความร้อนสูญเสีย
ส่งผลให้ค่าไฟอาจสูงขึ้นได้
• ช่วยลดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก ไฟฟ้า 3 เฟส ไม่ต้องใช้แคปสตาร์ท (Capacitor Start) ช่วยสตาร์ตคอมเพรสเซอร์ขณะเริ่มทำงาน ส่วน single phase จะต้องใช้แคปสตาร์ท
ช่วย คอมเพรสเซอร์ ขณะเริ่มทำงาน และหากห้องเย็นใช้ไปนานๆ 3-4 ปี single phase
หากแคปเสียขึ้นมาจะทำให้เครื่องทำความไม่ทำงาน ก็ต้องหมั่นดูแลเครื่องทำความเย็นบ่อยขึ้น
3. ค่าไฟฟ้าสำหรับห้องเย็น
อัตราค่าไฟฟ้าขึ้นตรงกับขนาดของห้องเย็น โดยเฉลี่ยห้อง 3 เมตร
ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 3 ถึง 5 พันบาท แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้น
เช่น การเปิดประตูห้องเย็นบ่อยๆ การดูแลบำรุงรักษาเครื่องทำความเย็น
คอมเพรสเซอร์ตัดต่อการทำงานถี่เกินไป พื้นที่ระบายลมร้อนจากคอยล์ร้อนแคบเกินไป
เก็บสินค้าผิดประเภทหรือเกินปริมาณที่ออกแบบเครื่องทำความเย็นไว้
ซึ่งทุกส่วนมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ก่อนการติดตั้งการเตรียมพื้นที่ รวมถึงการบำรุงรักษา
4. เตรียมพื้นที่ในการวางหรือติดตั้งห้องเย็น
ห้องเย็นสำเร็จรูป จำเป็นต้องวางในพื้นที่ที่ค่อนข้างโล่งและหลังคาสูง เพราะการเคลื่อนย้าย
หรือการขนส่งจะใช้รถเครนยกและวาง ต้องใช้พื้นที่พอสมควร ซึ่งต่างจากห้องเย็นแบบสั่งทำ
ที่สามารถประกอบขึ้นห้องที่หน้างานเลยจึงไม่มีปัญหาเรื่องหลังคาหรือความสูง
ทั้งนี้ห้องเย็นทั้ง 2 แบบ จำเป็นต้องมีพื้นเรียบ แข็งแรงที่จะรองรับน้ำหนักของสินค้าได้
มีหลังคาคลุมห้องเย็นหากตั้งไว้ในที่แจ้ง มีพื้นที่โดยรอบที่สามารถระบายความร้อน
จากระบบเครื่องทำความเย็นได้และสามารถรองรับการซ่อมบำรุง และมีควรระบบสุขอนามัยที่ดี
5. ก่อนสร้างห้องเย็นต้องขออนุญาตหรือไม่
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างห้องเย็นเพื่อเป็นคลังสินค้า
จำเป็นต้องขออนุญาตจากกระทรวงพานิชย์ ตามพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล
และห้องเย็น พ.ศ.2558 และสำหรับการสร้างห้องเย็นเพื่อไลน์การผลิตหรือการจัดเก็บ
หากทำการในลักษณะโรงงานขนาดใหญ่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดการจัดตั้งโรงงาน
สรุป
เนื่องจากการสร้างห้องเย็นเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ห้องเย็นที่มีประสิทธิภาพในการผลิตหรือจัดเก็บสินค้า จำเป็นต้องให้ความสำคัญในทุก ๆ ด้าน
ตั้งแต่การเลือกใช้บริการกับผู้ที่มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมทำความเย็น
การเลือกใช้อุปกรณ์ก็สำคัญ ควรเลือกแบบที่มีการรับประกัน และที่สำคัญ
บริการหลังการขายเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสร้างห้องเย็น
สามารถติดต่อทีมงาน Cool Innotech ได้นะครับ LINE OFFICIAL
ทีมงานของเราพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำแนะนำ การออกแบบ
รวมถึงบริการหลังการขาย
ข้อมูลเพิ่มเติม ความรู้ก่อนติดตั้งห้องเย็น